Thursday, August 16, 2007

หน้าแรก

สองน่องท่องกาญจน์
สวัสดีครับทุกคน หายหน้าหายตาไปนาน และแล้วก็กลับมา เพราะว่าได้ไปเที่ยวที่กาญจนบุรี ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจไปเที่ยวหรอกครับ เผอิญว่าต้องไปทำธุระที่นั่นพอดีก็เลยถือโอกาสไปเที่ยวซะเลย ส่วนงานที่ไปทำมาก็ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ ก็คงต้องปรับปรุงกันต่อไป ถ้าพูดถึงกาญจนบุรี มีต่อ... NEW!

สองน่องท่องยุดยา
อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน ถ้าคนไทยคนไหนไม่เคยได้ยินชื่อนี้ก็แปลก เพราะว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองประวัติศาสตร์ชาติไทยที่มีมานานก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ ผมเชื่อว่าทุกคนคงได้เรียนผ่านกันมาบ้าง ผมกับเพื่อน ๆ จึงวางแผนออกเดินทางไปดูกันโดยเราจะใช้เวลาทั้งหมดสองวันในการเที่ยวที่นี่ ซึ่งรับรองว่าถ้าใครได้ไปแล้วจะไม่ผิดหวังกับความยิ่งใหญ่ของราชธานีแห่งนี้แน่นอนครับ
วันแรกกับการเที่ยวเกาะอยุธยา
วันที่สองที่พระราชวังบางปะอิน ตอนที่ 1 มาแว้ววว

วันที่สองที่พระราชวังบางปะอิน ตอนจบ มาแว้วววววว















สองน่องท่องเขาใหญ่
สวัสดีครับ สำหรับคนที่ชอบเที่ยวแต่ว่าหาเวลาว่าง ๆ ไม่ค่อยจะได้ แวะมาชมเวบของผมที่นี่ก็ได้นะครับ อย่างเช่นช่วงวันหยุดที่ผ่านมาก็ไปเที่ยวเขาใหญ่กับเพื่อน ๆ มันเป็นครั้งแรกของผมน่าตื่นเต้นมากครับ แต่ครั้งนี้ไม่ค่อยได้ไปไหนเท่าไหร่ รูปจึงมีน้อยไปหน่อย เอาไว้ครั้งหน้าจะไปให้ครบทุกที่เลยหรือใครจะแนะนำที่ไหนก็ได้นะครับ ภาพที่นำมาฝากครับ มีต่อ...





แล้วเจอใหม่ครับ

พระราชวังบางปะอิน (ต่อ)

กลับมาอีกครั้ง สำหรับพระราชวังบางปะอิน หายไปตั้งนาน วันนี้เราก็จะเดินทางให้จบกันเลย ไปกันเลยดีกว่า
เมื่อเราติดต่อเช่ารถกอล์ฟได้แล้ว.. ก็ถึงเวลาเที่ยวชมความสวยงามของพระชวังกันเลยนะครับ ผมประทับใจกับสถานที่แห่งนี้มาก มีทั้งความสวยงาม ความร่มรื่น ความสงบเงียบ...(น่าปูเสื่อนอน)น๋ะครับ

เราก็จะไปตามถนนเส้นนี้และครับสองข้างถนนมีต้นไม้ ดอกไม้ที่สวยงาม....



ขับรถไปเรื่อยก็มีสนามหญ้าด้านขวามือ เป็นสนามหญ้าที่ใหญ่ และสวยงามมากครับ ผมเห็นแล้วก้อยากจะมีสนามหญ้าหน้าบ้านสวยๆแบบนี้บ้างนะคับ


เห็บรรยากาศสวยๆแบบนี้ใครจะอดใจไหวที่จะไม่ IN กับบรรยากาศ...พรีเซ็นเตอร์กิติมาศักดิ์ของเราก็เอากับเขาสักหน่อย โปรจริงๆ



เมื่อเราชื่นชมกับภูมิทัศน์ที่สวยงามและร่มรื่นเราก็ขับรถไปชมพระราชนิเวศน์สถานและนี่ก็คือ " พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ " ผมขอเล่าถึงประวัติสักเล็กน้อยนะครับเผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจและไม่สนใจ พระที่นั่งแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จำลองแบบมาจากพระที่นั่งอาภรณ์กิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ ได้กลายเป็นจุดเด่นขอพระราชวังบางะอินไปแล้วในตอนนี้ ถ้าพูดถึงพระราชวังางปะอินก็ต้องพูดถึงสถาปัตยกรรมไทยเพียงหลังเดียว ที่ตั้งอยู่อย่างโดดกลางสระน้ำท่ามกลางภูมิทัศน์ที่ร่มรื่น แต่วันนั้นท้องฟ้าไม่สวยเท่าไหร่



และที่มองไปด้านหลังของพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ก็จะเจอกับด้านหลังของประตูเทวราชครรไลเดี๋ยวเราจะไปดูด้านหน้ากันนะครับ...




อีกมุมของพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ สวยได้ทุกมุมครับ...




นี่ไงหละครับด้านหน้าของประตูเทวราชครรไล ด้านในจะมีร้านค้า จำหน่ายอาหารและเครื่องเดิม อากาศเย็นสบายครับ เพราะมีแอร์ ประตูเทวราชครรไลนี้เดิมใช้เป็นประตูสำหรับพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกจากเขตพระราชฐานชั้นในไปยังท้องพระโรง




มุมนี้จะก็สวยครับ เราจะทอดสะพาน(ข้ามสะพาน)....เข้าไปที่เขตพระราชฐานชั้นในครับ



รูปปั้นนี้เป็นอีกมุมของประตูเทวราชครรไลครับ




นี่ก็เป็นจะมีสะพานบานเกล็ดเชื่อมไปยัง พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ซึ่งเป็นท้องพระโรงสำหรับให้ขุนนางเข้าเฝ้าฯ




เมื่อเราเข้ามายังในเขตพระราชฐานชั้นใน ด้านขวามือจะเป็น พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร แต่ไม่เปิดให้ชมภายในครับ




สนามหญ้าอีกแห่งในเขตพระราชฐาน มีช้างเป็นโขลงเลยครับ ตัวเขียวทั้งนั้นเลย




สูงเด่นเป็นสง่า สีสันสวยงามคือ "พระที่นั่งวิทูรทัศนา"เป็นหอสูงยอดมน เมื่อก่อนใช้เป็นที่ส่องกล้องชมภูมิประเทศและดูดาว เดี่ยวนี้ก็เอาชมวิวในเขตพระราชวังบางปะอินได้ครับครับ




ยิ่งสูงยิ่งหนาว(สวยครับ) ขนาดที่ว่าไกด์กิติมศักดิ์ของเราอายุก็ไม่ใช่น้อยๆยังอดใจไม่ไหว หอบร่างกายและจิตวิญญาญ ขึ้นไปชมความงามของพระราชวัง (แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง) หมูอ้วนบอกนะเคลียร์กันเอง





เห็นภาพนี้แล้วอาจจะสงสัยนะครับว่าผมไปเที่ยวเมืองจีนหรือไปเที่ยวเยาวราชมา ไม่ใช่ครับนี่คือ"พระที่นั่งเวหาศจำรูญ" หรือชื่อจีนว่า “เทียนเม่ง ที่อยู่ในเขตพระราชวังบางปะอินนั่นแหละครับ เป็นพระที่นั่งที่บรรดาชาวไทยเชื้อสายจีนที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารร่วมกันสร้างถวายรัชกาลที่ 5




และนี่ก็อีกมุมของ"พระที่นั่งเวหาศจำรูญ" มาเที่ยวที่นี่ไม่ผิดหวังครับ เหมือนกับได้เที่ยวทั้งเอเชียและยุโรปเลยครับ

ภาพมุมสูงจาก"พระที่นั่งวิทูรทัศนา" กว่าจะขึ้นไปได้..เหนื่อย

พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร จากอีกด้านใหญ่โตมาก



ส่วนอันนี้ไม่ทราบชื่อ ลองไปหาดูนะครับ รู้แล้วบอกด้วย อยากจะกินหญ้าจริง ๆ เขียวสวยมาก





ขับรถไปก็จะอ้อมไปตามสระน้ำ มองกลับมาก็เจอที่เดิม



บอกแล้วว่าที่ร่มรื่น เห็นมั้ยมีนกด้วย



เราก็จะข้ามสะพานอีกแล้วไปที่อีกฝั่ง


พระที่นั่งวโรภาษพิมาน จากฝั่งตรงข้าม


ข้ามมาแล้ว ที่นี่พิเศษหน่อยเค้าอนุญาติให้เข้าชมภายในได้ แต่สุภาพสตรีต้องสวมผ้าถุงนะครับ เค้ามีให้ยืม ภายในสวยงามมาก แต่เสียดายที่ห้ามถ่ายรูป


ดูเวลาแล้ว ก็สมควรแก่เวลา ไม่ได้มืดนะครับ สมควรแก่เวลาที่จะต้องเอารถไปคืน เดี๋ยวไม่มีตังค์จ่าย ทางผ่านก็เจอน่าจะเป็นเรือนะ



คืนรถเรียบร้อย ก็มานั่งพัก ซื้อโปสการ์ดส่งหาเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ภายในก็น่านั่งครับ


หายเหนื่อยก็กลับกันดีกว่า ออกจากพระราชวังก็จะมีรถสองแถวที่มารอรับนักท่องเที่ยว เราก็ติดต่อจะไปที่สถานีรถไฟ คนละ 10 บาทครับ


ขึ้นรถไฟกลับอยุธยาเหมือนเดิม เต็มเหมือนเดิม เอ๊ะคนใส่แว่นทำไมแก่จัง อิอิ


ถึงที่สถานีรถไฟ ก็นั่งเรือข้ามฝากมาหาไรกินกันหน่อย หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อของ ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา มาก็มากนะครับ เพราะฉะนั้น เรามาถึงที่นี่แล้วต้องหามาชิมกันสักหน่อย อร่อยสมกับเป็นต้นตำรับจริง ๆ

และแล้วก็จบการเดินทางของวันนี้และทริปนี้ด้วย เป็นไงครับสนุกกันมั้ย ที่พระราชวังเป็นสถานที่ที่ร่มรื่น น่าพักผ่อนจากความวุ่นวาย ใครที่อยู่ไม่ไกลมาก็ลองมาแวะเดินเล่นชมความงามกันนะครับ อีกอย่างภายในพระราชวังมีสถานที่อีกหลายอย่างนะครับที่ผมไม่ได้แสดงให้ชมกัน มาดูเองนะ
เป็นไงบ้างครับสำหรับจังหวัดอยุธยา สวยงามและน่าประทับใจ สิ่งที่สังเกตเห็นนะครับที่พบได้เยอะที่นี่คือ สายน้ำและวัด ผู้คนก็คงจะผูกพันกับสิ่งเหล่านี้เช่นกัน ลองชวนเพื่อน ๆ มาเที่ยวกันครับ แอบบอกนิดหนึ่ง ทริปนี้สองวันไม่เกินพัน(อาศัยที่พักเพื่อน) ขอบคุณป๋ามากนะครับสำหรับที่พัก ทริปนี้ก็คงจบลง ทริปหน้าบอกใบ้ให้อีกนิดว่า ไปต่างแดน สวัสดีครับ